เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม  หากจะพูดถึงเมืองท่องเที่ยว แน่นอนว่าย่อมมีองค์ประกอบหลากหลายที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศ สถาปัตยกรรม หรือสีสันของเมืองนั้น ๆ ที่ดึงดูดผู้มาเยือนได้อย่างไม่ขาดสาย อย่างเช่น 10 เมืองท่องเที่ยวจากเว็บไซต์ amerikanki ที่เรานำมาฝากกันวันนี้ นอกจากจะมีประวัติศาสตร์และสถานที่อันน่าสนใจแล้ว สีสันของสิ่งปลูกสร้างก็งดงามไม่แพ้กันค่ะ  1. สต็อกโฮล์ม, ประเทศสวีเดน (Stockholm, Sweden) กว่า 14 เกาะ ที่ยื่นออกไปกลางทะเลบอลติก และยังเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญมากมายในกรุงสต็อกโฮล์ม ทั้งปราสาทอันเก่าแก่ในยุคกลางที่มีสถาปัตยกรรมอันงดงามในสมัยศตวรรษที่ 13 เรียกว่ายิ่งนานยิ่งเต็มไปด้วยมนตร์ขลัง นอกจากนี้ ยังเป็นที่ตั้งของพระราชวัง สิ่งปลูกสร้างสมัยก่อน และสถานที่สำคัญอีกมากมาย รวมทั้งบ้านเรือนของผู้คนที่แซมอยู่ระหว่างสถานที่สำคัญเหล่านั้น นอกจากจะสวยด้วยสถาปัตยกรรมแล้ว ยังงดงามด้วยสีสันสดใสของตัวอาคารบ้านเรือนและสีครามของน้ำทะเลด้วย  2. ลิมา, ประเทศเปรู (Lima, Peru)   ลิมา ถือเป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยสีสัน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านวัฒนธรรมหรือเทศกาลอันน่าสนใจ ด้านสิ่งปลูกสร้างนั้นนอกจากสวนสาธารณะเลิฟ พาร์ค ในเขตมิราฟลอเรสที่มีการตกแต่งกำแพงรอบทางเดินด้วยโมเสกสีสันต่าง ๆ แล้ว ยังมีตึกสีแซบไม่แพ้กันในเขต Barranco ซึ่งแต่ละตึกนอกจากจะทาสีแจ่ม ๆ แล้ว บางตึกยังทาสีสดมากกว่าสองสีอีกด้วย ยิ่งถ้าได้เห็นตึกเหล่านี้เรียงรายเป็นแนวยาวด้วยแล้ว ขอบอกเลยว่าคัลเลอร์ฟูลไม่แพ้ที่อื่น ๆ เลย  3. วิลเลมสตัด, ประเทศเนเธอร์แลนด์ (Willemstad, Netherlands) วิลเลมสตัด ตั้งอยู่แนวชายฝั่งทางตอนใต้ของเขตคูราเซา ซึ่งแบ่งออกเป็นสองฝั่ง คือ ฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก โดยมีทะเลแคริบเบียนขั้นอยู่ตรงกลาง ซึ่งนอกจากคุณจะได้เห็นทิวทัศน์สวย ๆ พร้อมรับลมทะเลเย็น ๆ แล้ว คุณยังจะได้สัมผัสกับสถาปัตยกรรมอันงดงามของอาคารบ้านเรือนหลากสีสันในวิลเลมสตัดอย่างเต็มอิ่ม และด้วยสีสันสวยงามแบบนี้เองที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนแบบไม่ขาดสายเลย  4. กวานาคัวโต, ประเทศเม็กซิโก (Guanajuato City, Mexico)   กวานาคัวโต คือ เมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศเม็กซิโก และเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันน่าสนใจ เนื่องจากเคยตกเป็นเมืองขึ้นของประเทศสเปน กระทั่งได้รับอิทธิพลทั้งทางด้านวัฒนธรรมและทางด้านสถาปัตยกรรมมาแบบเต็ม ๆ ดังจะเห็นได้จากอาคารบ้านเรือนที่มีสถาปัตยกรรมแบบสเปนผสมผสานอยู่ และนอกจากสีสันจะสวยงามสะดุดตาแล้ว อาคารบ้านเรือนเหล่านี้ยังตั้งอยู่บริเวณหุบเขา ทำให้เวลาที่มองออกไปจะเห็นว่าบ้านเรือนเหล่านี้ตั้งเรียงกันลงมาเป็นขั้นบันได นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่ซึ่งน่ามาเยือนไม่น้อยเลย  5. บัลปาราอีโซ, ประเทศชิลี (Valparaiso, Chile)   บัลปาราอีโซ ถือเป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีการจัดผังเมืองมาอย่างดี ทำให้อาคารบ้านเรือนต่าง ๆ ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย นอกจากนี้ สิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ของบัลปาราอีโซยังได้รับอิทธิพลจากยุคล่าอาณานิคมด้วย และเมืองบัลปาราอีโซยังเป็นเมืองท่าสำหรับเรือต่าง ๆ ทั้งเรือขนส่งสินค้าและเรือนักท่องเที่ยวที่มักจะแวะพักเรือแล้วมาดื่มด่ำกับมนตร์เสน่ห์แห่งสีสันของอาคารบ้านเรือน รวมทั้งโบสถ์อันเก่าแก่ และหากคุณมีโอกาสมาเยี่ยมเยือนก็อย่าพลาดที่จะแวะชมพิพิธภัณฑ์ทหารเรือ ซึ่งถือเป็นสถานที่ยอดฮิตของเมืองบัลปาราอีโซเช่นกัน  6. ยูเทรกต์, ประเทศเนเธอร์แลนด์ (Utrecht, Netherlands) ยูเทรกต์ เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งนอกจากสีสันของสิ่งปลูกสร้างอย่างอาคารบ้านเรือนแล้ว อีกหนึ่งสีสันที่น่าสนใจไม่แพ้กัน คือ สถานที่สำคัญมากมาย เช่น โรงละคร โบสถ์ ไปจนถึงร้านค้าเล็ก ๆ ร้านกาแฟ หรือร้านอาหารริมทาง ที่บอกได้เลยว่าทุกสิ่งทุกอย่างในเมืองยูเทรกต์ คือ เสน่ห์ที่น่าหลงใหล นอกจากนี้ ยังมีเทศกาลประจำปีและโชว์ผลงานศิลปะอันน่าสนใจ อีกทั้งถนนหนทางยังสะอาดสะอ้าน และการจัดผังเมืองอย่างเป็นระเบียบ ทำให้ยูเทรกต์เป็นอีกหนึ่งเมืองที่คุณอยากจะมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า  7. มหานครเซนต์จอห์น, ประเทศแคนาดา (St. John’s, Newfoundland, Canada) มหานครเซนต์จอห์น เป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของอเมริกาเหนือ และยังเป็นเมืองที่น่าสนใจของนิวฟาวด์แลนด์ด้วย นอกจากนี้ ยังเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสีสันสดใสจากอาคารต่าง ๆ ริมทะเล และเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวมักจะล่องเรือและหยุดชมความงดงามของทิวทัศน์อันสวยงาม ความลงตัวของสิ่งที่ธรรมชาติรังสรรค์ที่กลมกลืนกับสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น แค่นึกภาพก็อยากจะไปโลดแล่นอยู่ในมหานครเซ้นส์จอห์นสักครั้ง ได้แต่งตัวคัลเลอร์ฟูลพร้อมแชะภาพคู่กับอาคารหลากสีสัน พร้อมสัมผัสลมทะเลและดื่มด่ำกับภูเขาอันเขียวขจี แค่คิดก็ฟินสุด ๆ แล้ว  8. มานาโรลา, ประเทศอิตาลี (Manarola, Italy) มานาโรลา หมู่บ้านริมผาเหนือทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ที่นอกจากจะคัลเลอร์ฟูลด้วยสีสันของน้ำทะเลสีครามและสีน้ำตาลอมเทาของหน้าผาแล้ว ยังเขียวขจีไปด้วยต้นไม้ใบหญ้าที่ขึ้นมาปกคลุมหินผา แต่ไฮไลท์เด่นก็คงต้องยกให้อาคารที่ตั้งอยู่ริมผาที่สะท้อนแสงแข่งกับพระอาทิตย์ในตอนกลางวัน ส่วนในตอนกลางคืนก็สวยงามด้วยแสงไฟที่เล็ดรอดออกมาตามช่องต่าง ๆ ของบ้าน เรียกว่าสวยงามในทุกช่วงเวลาจริง ๆ แค่เห็นภาพยังสดชื่นขนาดนี้ ถ้าลองได้ไปเห็นของจริงละก็ บอกได้เลยว่างดงามเกินบรรยายค่ะ  9. วรอตสวัฟ, ประเทศโปแลนด์ (Wroclaw, Poland) วรอตสวัฟ เป็นเมืองที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม เนื่องจากมีพื้นที่อยู่ใกล้ชายแดนสองประเทศ คือ ประเทศเยอรมันและสาธารณรัฐเช็ก โดยเฉพาะย่านใจกลางเมือง อย่าง มาร์เก็ต สแควร์ ที่ถือเป็นศูนย์รวมนักท่องเที่ยวและเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของเมือง นอกจากนี้ ยังมีร้านอาหารและร้านเบเกอรี่น่ารัก ๆ ให้คุณได้ไปลิ้มรสอาหารอร่อยท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติก อีกทั้งอาคารสูงหลายชั้นที่ไล่เฉดสีกันตั้งแต่อ่อนไปเข้ม เรียกว่าเดินเพลิน ๆ ทั้งวันได้ไม่มีเบื่อเลย  10. พัทยา, ประเทศไทย (Pattaya, Thailand) คงไม่ต้องอธิบายความศิวิไลซ์ของพัทยา เชื่อว่าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติน่าจะรู้จักกันดี เพราะที่แห่งนี้เองที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวนับล้านคนต่อปี ที่ตอนกลางวันคุณจะได้ผ่อนคลายกับทะเลที่ได้รับความนิยม อย่าง หาดจอมเทียน ส่วนในยามราตรีคุณก็จะตื่นตาตื่นใจกับแสง สี เสียง จากโชว์ต่าง ๆ อีกทั้งยังเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเคาท์ดาวน์รับปีใหม่กันด้วย นอกจากนี้ ยังมีเทศกาลดนตรีนานาชาติที่ถือเป็นอีกหนึ่งสีสันที่ทำให้พัทยาเป็นเมืองน่าเที่ยวค่ะ   เรียกว่าแต่ละที่สีสันจัดเต็มแบบไม่มีใครยอมใครเลย นอกจากจะสร้างความสดชื่นสดใสให้แก่ผู้มาเยือนแล้ว ยังสร้างความประทับใจที่ทำให้ทุกคนอยากมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยค่ะ ^^   ส่วนท่านใดที่สนใจจองตั๋วเครื่องบินสามารถคลิกที่ http://bit.ly/airtickethero เพื่อทำการจองตั๋วเครื่องบินเส้นทางดีๆของคุณ และราคาสุดพิเศษ